บริการรับถ่ายวีดีโอ หรือ ธุรกิจวีดีโอโปรดักชั่น คือธุรกิจที่กำไรสูง ?
สำหรับคนทำธุรกิจวีดีโอโปรดักชั่น หรือ รับถ่ายวีดีโอ อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าภาษีคือหน้าที่ของประชาชนทุกคนที่จะต้องชำระให้ถูกต้อง ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม เมื่อมีรายได้ก็ต้องแจ้งสรรพกรให้รับทราบ ส่วนจะเสียภาษีหรือไม่นั้นก็ต้องศึกษาดูเกณฑ์รายได้อีกทีหนึ่งว่ารายได้เราสูงระดับไหน ธุรกิจรับถ่ายวีดีโอ นับว่าเป็นธุรกิจบริการที่เกิดรายได้จำนวนมากในช่วงระยะเวลาทำงานเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง และธุรกิจวีดีโอโปรดักชั่นเป็นธุรกิจที่ลงทุนสูงเรื่องอุปกรณ์เพียงแค่ครั้งแรกและครั้งเดียว สามารถใช้ทำงานหาเงินได้อีกนาน ถ้าไม่นับต้นทุนค่าซื้ออุปกรณ์ทำงานครั้งแรก ธุรกิจนี้ถือว่าทำกำไรได้ดีมาก และต้นทุนที่ต่ำมากเช่นกัน ฟรีแลนซ์บางคนสามารถทำกำไรได้มากกว่า 85% ของราคาค่าจ้างทั้งหมด นั่นจึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นคนรุ่นใหม่ เด็กใหม่ๆเข้าสู่วงการกันเป็นจำนวนมาก
ฟรีแลนซ์และคนทำธุรกิจด้านนี้หลายคนไม่เข้าใจและไม่มีความรู้เรื่องภาษี หลายๆคนที่รับงานแล้วมีรายได้เข้าถึงเกณฑ์ที่ต้องชำระภาษีแต่ไม่ได้ไปติดต่อชำระให้ถูกต้อง จึงเกิดค่าปรับทางภาษีอย่างมหาศาล หรือโดนปรับภาษีย้อนหลังนั่นเอง
คำถามที่ทุกคนสงสัยคือ สรรพกรจะรู้รายได้ของเราได้อย่างไร ? แน่นอนว่าถ้าเรารับงานประเภทงานบวช งานแต่ง งานจากบุคคลธรรมดาทั่วไปและรับเงินสด สรรพกรไม่มีทางรู้รายได้ของเราอย่างแน่นอน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เรารับงานจากนิติบุคคล ลูกค้าประเภทบริษัท ทุกครั้งที่บริษัทที่เป็นลูกค้าจ่ายเงินให้แก่เรา บริษัทจะต้องมีการบันทึกบัญชี มีการหักภาษี ณ ที่จ่ายแจ้งรายได้ของเราที่ได้รับต่อสรรพกร ทำให้สรรพกรรับรู้รายได้ของเราโดยทันที
นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ฟรีแลนซ์หลายคนไม่กล้ารับงานจากลูกค้าที่เป็นบริษัทเพราะกลัวภาระด้านภาษี หรือถ้ารับก็จะคิดราคาที่แพงกว่าปกติ แพงกว่างานบวชงานแต่งทั่วไป ทำให้โอกาสในการได้งานจากลูกค้าที่เป็นบริษัทลดลงไป
แล้วเราจะป้องกันปัญหานี้ได้อย่างไร ?
คำตอบคือไม่สามารถป้องกันได้ เราทำได้เพียง ทำทุกอย่างให้ถูกต้อง ทุกครั้งที่ลูกค้าบริษัทจ่ายเงินให้เรา 1000 บาท เราจะได้รับเงินเพียง 970 บาท ส่วนอีก 30 บาท ลูกค้าจะหักภาษีนำส่งสรรพกรให้เรา เหมือนกับเราจ่ายภาษีล่วงหน้าไปแล้ว เขาจะมีใบหักภาษี ณ ที่จ่ายให้เราเก็บไว้เอง 1 ชุด ใบนี้สำคัญอย่าทิ้ง รวบรวมไว้แล้วสิ้นปีนำทั้งหมดที่รวบรวมไปยื่นสรรพกร หากรายได้ทั้งปีของเราไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำทีต้องเสียภาษี เราก็ไม่ต้องเสีย แถมได้เงินที่ถูกหักไปแล้วทั้งหมดทั้งปีคืนมาอีกด้วยทุกบาททุกสตางค์ บางคนสามารถขอคืนภาษีได้จำนวนหลักหมื่นบาทต่อปี แต่ถ้ารายได้ของเราถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีแล้วก็ควรที่จะชำระให้ถูกต้องเท่านั้นเอง
และเมื่อไหร่ที่รายได้เราถึง 1.8 ล้านบาท/ปี เราควรที่จะรีบไปติดต่อสรรพกรเพื่อจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ VAT 7% ให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากไม่รีบดำเนินการจะเกิดค่าปรับย้อนหลังจำนวนมหาศาลอย่างคาดไม่ถึงและยังไงก็หนีไม่พ้นแน่นอน
บทความหน้าจะเราจะลงรายละเอียดลึกกันอีกทีถึงขั้นตอนการดำเนินการทางภาษีและเอกสารที่เกี่ยวข้องสำหรับคนที่ทำธุรกิจวีดีโอโปรดักชั่นให้ทราบกันต่อไป